ณ วันสัมภาษณ์งาน แค่เริ่มก็กดดันแล้วจ้า !!
จงแนะนำตัวให้จบใน 1 นาที .... ตอบอย่างไร ? ให้ได้งาน
ให้แนะนำทั้งหมดภายใน 1 นาที มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เป็นธรรมดาที่ ณ เวลานั้น ความตื่นเต้น ความกดดัน มักทำให้คุณเข้าใจว่าต้องตอบให้หมด
No !!! จริงๆ แล้ว สิ่งที่คนสัมภาษณ์อยากรู้ใน 1 นาทีก็คือ คุณมีคุณสมบัติที่เหมาะสมและมีโอกาสที่จะนำความสามารถมาใช้ทำงานในตำแหน่งที่สมัครได้มากแค่ไหน เท่านั้นเองครับ
ดังนั้น ต้องทำให้เขาเห็นว่าคุณมีคุณสมบัติที่จะทำงานนี้ได้จริง ต้องทำให้เขาอยากรู้จักมากขึ้น แล้วอยากสัมภาษณ์คำถามต่อไป เพื่อใช้ตัดสินในการรับคุณเข้าทำงาน
การบอกแค่ชื่อของคุณ มหาวิทยาลัย คณะที่จบมา ไม่ทำให้เขารู้สึกว้าว ! หรืออยากสัมภาษณ์ต่อหรอกครับ คุณต้องบอกด้วยว่า ความรู้ที่เรียนมาสามารถนำมาใช้ทำงานได้อย่างไรบ้าง (แต่การจะมาถึงจุดนี้ได้ ก็ต้องศึกษาองค์กรนั้นมาเป็นอย่างดีที่สุด เขาประกอบธุรกิจประเภทใด มีสินค้าอะไรบ้าง แล้วตำแหน่งที่สมัคร คุณมั่นใจว่าจะนำความสามารถที่มีมาใช้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้บ้าง)
เช่น เรียนจบการตลาด อยากสมัครตำแหน่ง Creative บริษัทที่สมัครคือบริษัทรับทำโฆษณา ก็ต้องบอกได้ว่า คุณมีคุณสมบัติใดที่สามารถมาทำตำแหน่งนี้ เคยมีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมอะไรมา ทำแล้วคุณได้ทักษะอะไร (ทักษะที่ได้ต้องสอดคล้องกับการนำมาใช้ทำงานในตำแหน่งที่สมัครเท่านั้น หลีกเลี่ยงการพูดถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครจะดีที่สุดครับ) อย่างเช่น ตอนเรียนเคยอยู่ใน Production กับเพื่อน แล้วเป็นคน Creative และกำกับภาพในการทำโฆษณาประกวด พร้อมโชว์ผลงานนั้นให้เขาดู ซึ่งเท่านี้ก็คือ จบ 1 นาที
จากนั้น คนสัมภาษณ์ก็จะถามเกี่ยวกับผลงานของคุณ เพื่อดูว่าคุณมีไอเดียและสามารถอธิบายได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลที่เข้าใจได้ขนาดไหน ซึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย ไม่ใช่มีผลงานมาโชว์ แต่นำเสนอไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่อง แบบนี้ก็จบเลยครับ
อย่างเช่น เขาถามว่า ทำไมต้องออกมาเป็นภาพนี้ มันดียังไง ?
สมมติผลงานป็นภาพโฆษณาไอศกรีม ราคาแท่งละ 500 บาท โจทย์คือ ต้องทำให้คนเห็นแล้วอยากซื้อ และภาพที่คุณทำออกมา เป็นผู้หญิงสวย ใส่เสื้อผ้า Brand Name ดูหรูหรา กำลังกินไอศกรีมที่บนแท่งเหลือ 1 คำ โดยไม่มีรอยเปื้อนใดๆ ไม่มีคราบไอศกรีมละลายเลย
เหตุผลคือ คุณวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อไอศกรีมนี้ โดยนำภาพลักษณ์และรสนิยมของกลุ่มเป้าหมายมาใช้ในการทำภาพเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูง ส่วนใหญ่จะนิยมความหรู ดูแพง ภาพที่ออกมาจึงต้องเน้นความหรูหรามากกว่าความอร่อย กินแล้วต้องดูหรู
เพราะภาพลักษณ์สินค้าที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย คือสิ่งแรกที่จะกระตุ้นให้เขากล้าเปิดใจและกล้าซื้อ ส่วนรสชาติที่อร่อย จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำและการบอกต่อ
ทางตรงข้าม ถ้าภาพลักษณ์สินค้าไม่ตรงใจ โอกาสที่จะกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเปิดใจและกล้าซื้อย่อมน้อยกว่าแน่นอน
ฉะนั้น ภาพโฆษณาที่ทำออกมา จะไม่ใช่แค่ดูสวย ดูหรูอย่างเดียว แต่คุณต้องมีที่มา พร้อมอธิบายได้อย่างมีเหตุผล
เตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาองค์กรให้ดี นำความสามารถออกมาให้สุด ให้เขารู้ว่าคุณทำประโยชน์ให้องค์กรได้จริง
แค่นี้ คุณทำได้อยู่แล้วครับ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด